“ลูกติดจอ” ทำอย่างไรให้ใช้เทคโนโลยีอย่างปลอดภัย

ในยุคที่แท็บเล็ต มือถือ และทีวีคือส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน “การให้ลูกใช้หน้าจอ” ไม่ใช่เรื่องผิด แต่สิ่งสำคัญคือ “ใช้ยังไงให้เกิดประโยชน์และไม่เป็นโทษ”

💡 ทำไมเด็กถึงติดจอ

สมองของเด็กไวต่อสิ่งกระตุ้นจากภาพและเสียงเคลื่อนไหว เมื่อดูหน้าจอ สมองจะหลั่งสาร “โดปามีน” ซึ่งให้ความรู้สึกพึงพอใจ หากได้รับซ้ำบ่อย ๆ เด็กจะเคยชินกับความตื่นเต้นรวดเร็ว จนไม่สนใจสิ่งรอบตัว หรือขาดสมาธิในกิจกรรมอื่น

⚠️ ผลกระทบจากการใช้จอมากเกินไป

  1. พัฒนาการด้านภาษาและสมาธิล่าช้า
    เด็กที่ดูจอมากมักพูดช้า เพราะไม่ได้ฝึกโต้ตอบกับคนจริง
  2. นอนหลับยากและอารมณ์แปรปรวน
    แสงสีฟ้าจากหน้าจอรบกวนการหลั่งเมลาโทนิน
  3. พฤติกรรมก้าวร้าวหรือเลียนแบบพฤติกรรมในจอ
    โดยเฉพาะเมื่อดูคอนเทนต์ที่ไม่เหมาะกับวัย
  4. ปัญหาสายตาและท่าทาง
    การก้มจอนานเกินไปอาจทำให้สายตาสั้นหรือปวดคอ

📱วิธีให้ลูกใช้เทคโนโลยีอย่างปลอดภัย

  1. จำกัดเวลาให้เหมาะสมตามวัย
    • ต่ำกว่า 2 ปี → หลีกเลี่ยงการใช้จอโดยไม่จำเป็น
    • 2–5 ปี → ไม่เกินวันละ 1 ชั่วโมง และควรมีผู้ใหญ่ดูด้วย
    • 6 ปีขึ้นไป → กำหนดช่วงเวลาใช้ชัดเจน เช่น หลังทำการบ้านหรือกิจกรรมกลางแจ้ง
  2. เลือกเนื้อหาที่มีสาระ
    เน้นสื่อที่ส่งเสริมการเรียนรู้ การอ่าน หรือพัฒนาทักษะ เช่น “เพลงคำศัพท์,” “การ์ตูนสอนมารยาท,” “กิจกรรมศิลปะ”
  3. ให้ลูกใช้จอแบบมีส่วนร่วม (Active Screen Time)
    แทนที่จะดูเงียบ ๆ ให้ชวนพูด ถาม ตอบ เช่น “น้องเห็นตัวการ์ตูนทำอะไรอยู่ลูก?”
    “เขาช่วยเพื่อนยังไงนะ?”
    การมีปฏิสัมพันธ์จะช่วยให้ลูกเข้าใจเนื้อหาลึกขึ้นและไม่จมอยู่กับจอ
  4. เป็นแบบอย่างที่ดี
    ถ้าคุณพ่อคุณแม่ใช้มือถือระหว่างกินข้าวหรือตอนเล่นกับลูก
    เด็กจะเรียนรู้ว่านั่นคือสิ่งปกติ การลดเวลาใช้จอเริ่มจากผู้ใหญ่ก่อนเสมอ
  5. สร้างกิจกรรมทดแทนที่น่าสนใจ
    เล่นของเล่นที่ใช้มือจริง เช่น ตัวต่อ วาดรูป เล่นบทบาทสมมุติ หรือออกไปเล่นกลางแจ้ง