
เสียงครืดคราดของลูกช่วงแรกเกิด เกิดจากอะไร?
คุณแม่หลายคนอาจสังเกตว่าลูกน้อยมีเสียงหายใจครืดคราด โดยเฉพาะเวลานอน ทำให้เกิดความกังวลว่านี่เป็นอาการผิดปกติหรือไม่ วันนี้เรามาทำความเข้าใจถึงสาเหตุและวิธีช่วยให้ลูกหายใจโล่งขึ้นกันค่ะ
สาเหตุที่ทำให้ลูกมีเสียงหายใจครืดคราด
1. ทางเดินหายใจยังพัฒนาไม่สมบูรณ์
ทารกแรกเกิดยังมีระบบทางเดินหายใจที่เล็กและบอบบางกว่าผู้ใหญ่ โพรงจมูกและหลอดลมยังแคบ ทำให้เมื่อมีน้ำมูก น้ำลาย หรืออากาศผ่านเข้าไป อาจเกิดเสียงครืดคราดได้ ซึ่งเป็นเรื่องปกติและจะดีขึ้นเองเมื่อทารกโตขึ้น
2. มีน้ำมูกสะสมในโพรงจมูก
ทารกแรกเกิดยังไม่สามารถสั่งน้ำมูกหรือจามได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้มีน้ำมูกตกค้างในโพรงจมูก และเมื่ออากาศผ่านเข้าไป อาจทำให้เกิดเสียงหายใจครืดคราด
3. น้ำลายสะสมในลำคอ
ทารกบางคนอาจมีน้ำลายสะสมในลำคอมาก เนื่องจากยังกลืนหรือควบคุมการผลิตน้ำลายได้ไม่ดีพอ จึงอาจมีเสียงครืดคราดเวลาหายใจ
4. ภาวะกล่องเสียงอ่อนตัว (Laryngomalacia)
เป็นภาวะที่พบได้บ่อยในทารกแรกเกิด เกิดจากกระดูกอ่อนบริเวณกล่องเสียงยังไม่แข็งแรงพอ ทำให้เนื้อเยื่ออ่อนตัวและยุบตัวลงบางส่วนเมื่อหายใจเข้า ส่งผลให้เกิดเสียงหายใจครืดคราด โดยเฉพาะเวลานอนหงาย อย่างไรก็ตาม ภาวะนี้จะค่อย ๆ ดีขึ้นเองเมื่อเด็กอายุประมาณ 12-18 เดือน
5. การสำลักน้ำนมบางส่วน
บางครั้งทารกอาจดูดนมเร็วเกินไปหรือกลืนอากาศเข้าไปมาก ทำให้น้ำนมบางส่วนไหลย้อนกลับมาติดอยู่ที่ลำคอ ส่งผลให้เกิดเสียงหายใจที่ไม่ราบรื่น
6. อากาศแห้งหรือมีฝุ่นละออง
ถ้าสภาพอากาศแห้งหรือมีฝุ่นมาก อาจทำให้จมูกของลูกแห้ง มีน้ำมูกเหนียว และทำให้เกิดเสียงหายใจครืดคราดได้
7. การเปลี่ยนแปลงของท่าทางการนอน
บางครั้งเสียงครืดคราดอาจเกิดขึ้นเมื่อทารกนอนในบางท่า เช่น นอนหงาย อาจทำให้ลิ้นตกไปด้านหลังและปิดทางเดินหายใจบางส่วนได้
วิธีช่วยให้ลูกหายใจโล่งขึ้น
1. ล้างจมูกด้วยน้ำเกลือ
หากลูกมีน้ำมูกเหนียว ควรใช้ น้ำเกลือสำหรับเด็ก หยดเข้าจมูก 1-2 หยด แล้วใช้ลูกยางดูดน้ำมูกออกเบา ๆ เพื่อช่วยให้ทางเดินหายใจโล่งขึ้น
2. ปรับอุณหภูมิและความชื้นในห้อง
ควรรักษาอุณหภูมิห้องให้อยู่ที่ 24-26 องศาเซลเซียส
หลีกเลี่ยงอากาศแห้งเกินไป อาจใช้ เครื่องทำความชื้น ช่วยเพิ่มความชื้นในอากาศ
หลีกเลี่ยงฝุ่นละอองและควันบุหรี่ เพราะอาจทำให้ทางเดินหายใจระคายเคือง
3. เปลี่ยนท่านอนของลูก
หากลูกมีเสียงครืดคราดขณะนอนหงาย อาจลอง จับให้นอนตะแคง หรือ อุ้มพาดไหล่สักครู่ ก่อนวางลง เพื่อช่วยให้น้ำมูกไหลลงคอได้ง่ายขึ้น
4. ใช้ตัวช่วยจากธรรมชาติ
การใช้ Umbili ChunChun Organic Oil Serum ฉุนฉุน เซรั่มหอมแดง สามารถช่วยให้ลูกน้อยหายใจโล่ง ลดอาการครืดคราดจากน้ำมูก และทำให้หลับสนิทขึ้น
5. หลีกเลี่ยงการใช้ลูกยางดูดน้ำมูกบ่อยเกินไป
การดูดน้ำมูกให้ลูกเป็นครั้งคราวช่วยได้ แต่ไม่ควรทำบ่อยเกินไป เพราะอาจทำให้จมูกระคายเคืองและผลิตน้ำมูกเพิ่มขึ้น
6. สังเกตอาการผิดปกติที่ต้องรีบพบแพทย์
แม้ว่าเสียงหายใจครืดคราดในทารกส่วนใหญ่จะไม่เป็นอันตราย แต่หากลูกมีอาการเหล่านี้ร่วมด้วย ควรรีบพาไปพบแพทย์ทันที
หายใจลำบาก มีอาการเหนื่อย หายใจแรง หรือมีร่องอกบุ๋ม
มีอาการตัวเขียว ริมฝีปากเขียวคล้ำ
มีไข้สูง หรือมีอาการไอมาก
หายใจเสียงดังขึ้นเรื่อย ๆ และไม่ดีขึ้นหลังจากพยายามช่วยให้จมูกโล่งแล้ว
ผลิตภัณฑ์ที่ใส่ใจจาก Umbili
เสียงครืดคราดของลูกในช่วงแรกเกิดมักเกิดจากทางเดินหายใจที่ยังพัฒนาไม่สมบูรณ์ การสะสมของน้ำมูกหรือน้ำลายในจมูกและลำคอ หรือภาวะกล่องเสียงอ่อนตัว ซึ่งส่วนใหญ่มักดีขึ้นเองเมื่อเด็กโตขึ้น อย่างไรก็ตาม คุณแม่สามารถช่วยให้ลูกหายใจโล่งขึ้นได้โดยการล้างจมูก ปรับอุณหภูมิและความชื้นในห้อง และเลือกใช้ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติอย่าง Umbili ChunChun Organic Oil Serum ฉุนฉุน เซรั่มหอมแดง ที่ช่วยลดอาการครืดคราดและทำให้ลูกหลับสนิทขึ้น