1. ถั่วปากอ้าและผลิตภัณฑ์จากถั่วปากอ้า

ถั่วปากอ้า เป็นอาหารที่อันตรายที่สุดสำหรับผู้ที่มีภาวะ G6PD เนื่องจากมีสารที่สามารถกระตุ้นให้เซลล์เม็ดเลือดแดงแตกได้ อาจทำให้เกิดอาการซีด ตัวเหลือง อ่อนเพลีย และในบางกรณีอาจรุนแรงจนต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล

2. ถั่วเหลืองและผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง

แม้ว่าถั่วเหลืองจะไม่เป็นอันตรายเท่าถั่วปากอ้า แต่ก็ควรหลีกเลี่ยง เนื่องจากอาจมีผลกระทบต่อผู้ที่มีภาวะ G6PD ผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลืองที่ควรระวัง ได้แก่:

• น้ำเต้าหู้

• ซีอิ๊วขาว ซีอิ๊วดำ

• เต้าเจี้ยว

• เต้าหู้

3. อาหารที่มีสารกันบูดและสารเคมีออกซิเดชันสูง

อาหารที่มีสารกันบูดหรือสารเคมีที่อาจกระตุ้นให้เซลล์เม็ดเลือดแดงแตก ควรหลีกเลี่ยง เช่น:

• อาหารกระป๋อง

• ไส้กรอก แฮม และอาหารแปรรูป

• ขนมขบเคี้ยวที่มีสีผสมอาหารสังเคราะห์

• น้ำอัดลมและเครื่องดื่มชูกำลัง

4. เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน

คาเฟอีนอาจทำให้ร่างกายเกิดภาวะเครียดออกซิเดชัน ซึ่งเป็นอันตรายต่อผู้ที่มีภาวะ G6PD ควรหลีกเลี่ยง:

• กาแฟ

• ชา

• น้ำอัดลมที่มีคาเฟอีน

• เครื่องดื่มชูกำลัง

5. ผลไม้บางชนิดที่มีสารออกซิเดชันสูง

ผลไม้บางชนิดอาจมีสารที่กระตุ้นให้เกิดภาวะเม็ดเลือดแดงแตก ได้แก่:

• บลูเบอร์รี่

• แครนเบอร์รี่

• ลูกฟิก

• ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ที่มีสารออกซิเดชันสูง

6. ยาที่ควรหลีกเลี่ยง

นอกจากอาหารแล้ว ยาบางชนิดก็อาจเป็นอันตรายต่อเด็กที่มีภาวะ G6PD โดยเฉพาะ:

• ยาปฏิชีวนะกลุ่มซัลฟา เช่น Bactrim

• ยาต้านมาลาเรีย เช่น Primaquine

• ยาแก้ปวดกลุ่มแอสไพริน

• ยาลดไข้ที่มีวิตามินซีสูง

หากลูกน้อยต้องใช้ยา ควรแจ้งแพทย์และเภสัชกรเสมอว่าลูกมีภาวะ G6PD เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้น