1. การให้นมลูก

• นมแม่ดีที่สุด: นมแม่เป็นอาหารที่เหมาะสมที่สุดสำหรับทารกในช่วง 6 เดือนแรก เพราะมีสารอาหารครบถ้วนและช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน

• สังเกตสัญญาณหิวของลูก: ทารกจะแสดงออกเมื่อหิว เช่น ดูดนิ้ว ทำปากจุ๊บจิ๊บ หรือร้องไห้

• ให้นมตามความต้องการ: ไม่จำเป็นต้องจับเวลา ให้ลูกดูดนมเมื่อเขาต้องการ โดยเฉลี่ยแล้ว ทารกจะกินทุก ๆ 2-3 ชั่วโมง

• ท่าทางการให้นมสำคัญ: ท่าอุ้มที่ถูกต้องช่วยให้ลูกดูดนมได้มีประสิทธิภาพและลดอาการเจ็บหัวนมของแม่

2. วิธีอุ้มและจับลูกเรอ

• อุ้มลูกให้ศีรษะสูงกว่าลำตัวเพื่อป้องกันอาการสำลัก

• หลังให้นม ควรจับลูกเรอโดยอุ้มพาดบ่าแล้วตบหลังเบา ๆ หรือจับนั่งบนตักและพยุงคางไว้

• การเรอช่วยลดแก๊สในท้อง ทำให้ลูกสบายตัวและลดโอกาสเกิดอาการโคลิค

3. การเปลี่ยนผ้าอ้อมและดูแลสะดือ

• ควรเปลี่ยนผ้าอ้อมทุก 2-3 ชั่วโมง หรือทุกครั้งที่เปียกชื้น เพื่อลดโอกาสเกิดผื่นผ้าอ้อม

• ใช้สำลีชุบน้ำสะอาดเช็ดก้นแทนทิชชู่เปียกที่มีน้ำหอม เพื่อป้องกันการระคายเคือง

• ทำความสะอาดสะดือด้วยสำลีชุบน้ำเกลือ แล้วปล่อยให้แห้งเอง ห้ามใช้แป้งหรือครีมทาที่สะดือ

• หลีกเลี่ยงการอาบน้ำเต็มตัวจนกว่าสะดือจะหลุดเองตามธรรมชาติ

4. การสังเกตสัญญาณผิดปกติของลูก

• ตัวเหลืองผิดปกติ: หากอาการตัวเหลืองลามไปถึงแขนขาหรือคงอยู่นานเกิน 2 สัปดาห์ ควรพาไปพบแพทย์

• ลูกไม่ดูดนมหรือซึมผิดปกติ: หากลูกไม่ดูดนม หรือมีอาการซึม ไม่ค่อยตอบสนอง ต้องรีบปรึกษาแพทย์

• ปัสสาวะและอุจจาระผิดปกติ: ลูกควรปัสสาวะอย่างน้อย 6 ครั้งต่อวัน และอุจจาระควรเป็นสีเหลืองทอง หากอุจจาระมีสีซีดหรือขาวผิดปกติ ควรพาไปพบแพทย์

5. เทคนิคช่วยให้ลูกนอนหลับสบาย

• สร้างกิจวัตรก่อนนอน: เช่น อาบน้ำอุ่น ฟังเพลงกล่อมเบา ๆ ปิดไฟให้สลัว

• อุณหภูมิห้องต้องเหมาะสม: ควรอยู่ที่ประมาณ 24-26 องศาเซลเซียส ไม่ร้อนหรือหนาวเกินไป

• ห่อตัวลูกเบา ๆ: ช่วยให้ลูกรู้สึกปลอดภัยและนอนหลับได้นานขึ้น

• ใช้ตัวช่วยธรรมชาติ: เช่น Umbili ChunChun Organic Oil Serum ฉุนฉุน เซรั่มหอมแดง ที่ช่วยให้ลูกหายใจโล่ง ลดอาการครืดคราด และช่วยให้หลับสนิท

6. การดูแลคุณแม่หลังคลอด

• พักผ่อนให้เพียงพอ: ถึงแม้จะยาก แต่การงีบหลับในช่วงที่ลูกหลับจะช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวเร็วขึ้น

• รับประทานอาหารที่มีประโยชน์: ควรกินอาหารที่มีโปรตีน ธาตุเหล็ก และแคลเซียมเพียงพอ

• ดื่มน้ำให้มาก ๆ: เพื่อช่วยให้ร่างกายผลิตน้ำนมได้ดีขึ้น

• ขอความช่วยเหลือเมื่อจำเป็น: ไม่ต้องแบกทุกอย่างไว้คนเดียว ควรให้คู่สมรสหรือครอบครัวช่วยดูแล